๔๔๗. หล่อฮังก๊วย (Luo Han Guo, Monk fruit) วงศ์ CUCURBITACEAE

๔๔๗. (Luo Han Guo, Monk fruit)หล่อฮังก๊วย
Siraitia grodvenorii (Swingle) C. Jeffrey ex A.M. Lu & Zhi Zhang
วงศ์ CUCURBITACEAE
ไม้เถาเลื้อยไต่พัน มีอายุหลายปี เถายาว ๓-๕ เมตร มีมือเกาะพันเป็นเกลียว ใบรูปหัวใจ ยาว ๑๐-๒๐ ซม. ขอบใบเป็นคลื่น ช่อดอกแบบกระจะ ออกเป็นช่อตามซอกใบ ดอกสีเหลือง กลีบเลี้ยง ๕ กลีบ สีเขียว กลีบดอก ๕ กลีบ สีเหลือง เรียงเวียนกันเป็นรูประฆัง เกสรเพศผู้ 3-5 อัน เกสรเพศเมียปลายแยกเป็น ๓ แฉก ผลสดสีเขียว เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีเทาดำ ขนาด ๔-๘ ซม. ลักษณะกลม เปลือกเรียบ แข็ง ภายในมีเนื้อหลวมๆ เมื่อแห้งจะจับเป็นก้อนอยู่ในผล เขย่าได้ยินเสียง เมล็ดสีน้ำตาล แบน รูปไข่กว้าง มีจำนวนมาก
กระจายพันธุ์อยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ปลูกมากในมณฑลยูนนานและกวางสี และทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ที่ระดับความสูง ๓๐๐-๑,๔๐๐ เมตร ตามบริเวณชายป่าที่มีร่มเงา
หล่อฮังก๊วย เป็นสมุนไพรโบราณของจีนที่มีบันทึกไว้กว่า ๒,๐๐๐ ปี มาแล้ว ชื่อมีความหมายแปลว่าผลไม้อรหันต์ (หล่อฮัง = อรหันต์ และก๊วย = ผลไม้) การใช้ประโยชน์ จะต้องเก็บเมื่อผลยังเขียว ตากแดดหรือเข้าตู้อบให้แห้ง นำผลแห้งไปทุบให้แตก แล้วต้มเคี่ยวจนเดือด จะได้น้ำสีดำคล้ายกาแฟ มีรสขมหวาน เมื่อจิบอุ่นๆ จะชุ่มคอ บรรเทาอาการไอ เจ็บคอ บำรุงสุขภาพ ปรับสมดุลในร่างกาย เมื่อดื่มเย็น จะแก้ร้อนใน กระหายน้ำ และทำให้นอนหลับสบาย
เปลือกผลมีรสขมใช้บดเป็นผงชงเป็นชา เนื้อในผลรับประทานดิบได้ มีสารให้ความหวานตามธรรมชาติ คือสารประกอบ Mogroside ประมาณ ๑ % เป็นสารที่หวานกว่าน้ำตาล ๑๐๐-๒๐๐ เท่า มีคาลอรีต่ำ จึงนิยมนำไปประกอบอาหารบำรุงสุขภาพและเครื่องดื่มต่างๆ ผู้เป็นเบาหวานจึงไม่ควรดื่มน้ำหล่อฮังก๊วยในปริมาณมาก


